บอกเลยงานนี้ชาวไทยมีเฮ เพราะรุ่นใหม่ปรับโฉม สดใหม่ด้วยการปรับหน้าตา รายละเอียดให้หล่อเหลายิ่งขึ้น
.
เริ่มจากภายนอกของรุ่น Alphard เน้นความสปอร์ตมากขึ้นแต่ยังคงคอนเซ็บต์ความหรูเช่นเดิม ตั้งแต่ กระจังหน้าดีไซน์โครเมี่ยมใหม่ดูทะมัดทะแมงขึ้นพร้อมไฟหน้า LED projectors ใหม่ สอดรับกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่และยังออกแบบตำแหน่งไฟตัดหมอกให้ต่ำลง เพื่อความลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ ด้านท้ายปรับในเรื่องกรอบป้ายทะเบียนโครเมี่ยมดีไซน์ใหม่ที่ยาวขึ้นรับกับไฟท้าย LED ใหม่
.
ด้านฝาแฝดรุ่น Vellfire ปรับใหม่ครั้งนี้ฉีกแนวเน้นสปอร์ตด้วย กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟหน้า LED สองชั้นใหม่ กันชนหน้าใหม่และด้านท้ายปรับอารมณ์ใหม่ด้วยกรอบป้ายทะเบียนดีไซน์ใหม่ยาวขึ้นรับกับไฟท้าย LED เพิ่มความเร้าใจมากขึ้น แต่ทั้งสองรุ่นได้ล้ออัลลอยลายใหม่ทั้งขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 215/65 R16 ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/60 R17 และขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/50 R18
.
ภายในทั้งสองรุ่นยังคงหรูหราด้วยชุดเบาะนั่งแบบ 7 ที่นั่ง โดยเฉพาะเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ 2 ที่นั่ง ปรับไฟฟ้า ด้วยดีไซน์เบาะนั่งแบบ First Class เสมือนนั่งอยู่บนสายการบินชั้นนำ แผงควบคุมเบาะนั่งแถว 2 พร้อมโต๊ะกลางและที่วางแก้วและที่รองขา หรือแบบ 3 ที่นั่งให้เลือกตามความแตกต่างของแต่ละรุ่นพร้อมวัสดุหุ้มเบาะทั้งแบบผ้า และแบบหนังคุณภาพสูงทั้งสีเบจ และ หนัง Nappa สีขาว แผงคอนโซลหน้ายังคงเดิมเพิ่มเติมด้วยมาตรวัดเรืองแสงใหม่ และ วัสุดลายไม้ตกแต่งบริเวณคอนโซหน้า คอนโซลเกียร์ และแผงประตูใหม่ เป็นต้น
.
รถตู้หรูทั้งสองรุ่นจาก Toyota ใช้ขุมพลังเดียวกัน เครื่องยนต์เบนซิน V6 พัฒนาใหม่ ภายใต้รหัส2GR-FKS Direct Injection ให้กำลังสูงสุด 301 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตันเมตรที่ 4,600 – 4,700 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ลูกใหม่แบบ Direct Shift (แทนเครื่องเดิมเบนซิน V6 Dual VVT-I 3.5 ลิตร 2GR-FE พัฒนาใหม่ ให้กำลังสูงสุด 280 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 344 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที กับ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Super ECT แบบ Sequential Shift ) เลือกได้ทั้งรุ่นขับสองและขับสี่ 4WD
.
ส่วนอีก 2 ขุมพลังความแรงยังคงเดิมเริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-I 2.5 ลิตร 2AR-FE แรงม้าสูงสุด 182 แรงม้า ที่ ที่ 6,000 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร ที่ 4,100 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหน้าและระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีดพร้อมระบบ Sequential Shift เลือกได้ทั้งรุ่นขับสองและขับสี่ 4WD
และเครื่องยนต์เบนซิน VVT-I Hybrid ขนาด 2.5 ลิตร 2AR-FXE กำลังสูงสุด 152 แรงม้าที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4,400 – 4,800 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟฟ้า 2JM 143 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตรและมอเตอร์ไฟฟ้า 2FM 68 แรงม้า แรงบิด 139 นิวตันเมตร และเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า ผ่านระบบ เกียร์อัตโนมัติ ECVTและขับเคลื่อนด้วยระบบขับสี่แบบ E-Four
ความปลอดภัยเต็มพิกัดด้วยระบบ Toyota Safety Sense P (TSS-P) เวอร์ชั่นใหม่ ทั้งระบบ Pre-Collision System (PCS) กับ Lane Tracing Assist (LCA), Lane Departure Alert (LDA) และ Advance Car Start Notification function (TMN)
.
Stay Tune ! SPYDER จะนำ Clip มาให้ดูกันอีกครั้ง โปรดติดตามได้ใหม่ครั้งหน้าครับ