ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน ทำให้ช่วงนี้อุณหภูมิก็จะสูงกว่าปกติ ส่งผลให้อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนบางอย่างของรถอาจเสื่อมสภาพหรือพังได้ง่ายๆ ดังนั้นช่วงนี้เราควรหมั่นตรวจเช็คและดูแลรถเป็นพิเศษ มีอะไรบ้างที่ต้องดูแลเป็นพิเศษในช่วงหน้าร้อน วันนี้ SSM จะมาบอกให้รู้กัน
ระบบหล่อเย็น
ระบบหล่อเย็นถือเป็นตัวช่วยระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ได้ดี ดังนั้นควรหมั่นตรวจเช็คระดับน้ำในหม้อน้ำว่าอยู่ในปริมาณที่กำหนดไหม ถ้าพบว่าระดับน้ำต่ำกว่าปกติ ควรหาสาเหตุที่น้ำหายไป เพราะหากมีอะไรชำรุดเสียหายจะได้แก้ไขได้ทันที หลังจากนั้นค่อยเติมน้ำให้อยู่ในประปริมาณที่กำหนด
ระบบปรับอากาศ
ข้อนี้สำคัญมากๆ ยิ่งในช่วงที่อากาศร้อนจัดๆ แบบนี้ ระบบปรับอากาศยิ่งจำเป็นกับเรามากๆ ดังนั้นควรตรวจเช็คให้ดี ตั้งแต่ ระดับของน้ำยาแอร์ว่าอยู่ในระดับที่ปกติไหม สายท่อแอร์ชำรุดไหม กรองแอร์อุดตันไหม เพราะทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อความเย็นของแอร์ หากพบว่าส่วนไหนมีปัญหาควรรีบแก้ไขทันที เพราะในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ถ้าระบบปรับอากาศในรถใช้ไม่ได้ คงต้องแย่แน่ๆ
ชิ้นส่วนต่างๆ ที่ทำจากยางหรือพลาสติก
พวกอุปกรณ์หรือชื้นส่วนต่างๆ ที่ทำจากยางหรือพลาสติก เช่นพวก สายพาน , ขอบยางประตู ,ใบปัดน้ำฝน ถ้าโดนความร้อนมากๆ ความเหนียวและยืดหยุ่นในยางจะลดลงเรื่อยๆ เช่น ใบปัดน้ำฝนก็จะมีอาการฝืด อาจทำให้กระจกเป็นรอยได้ และถ้าเป็นขอบยางประตูจะทำให้ปิดประตูไม่ค่อยสนิท หรือถ้าเป็นสายพาน หากมีรอยแตกร้าวนิดหน่อย ก็อาจส่งผลต่อการขับขี่ได้ ดังนั้นควรตรวจเช็คสภาพสิ่งของที่เป็นประเภทยางให้ดี ถ้าพบว่าเริ่มเสื่อมสภาพควรเปลี่ยนทันที
แบตเตอรี่รถยนต์
อุณหภูมิที่สูงมากในช่วงหน้าร้อน จะส่งผลต่อระบบไฟฟ้าทั้งหมดรวมถึงแบตเตอรี่ของรถยนต์ด้วย ดังนั้นต้องหมั่นตรวจสอบระบบทั้งหมดของแบตเตอรี่อยู่บ่อยๆ เช็คดูว่าพวกสายไฟและขั้วต่าง ๆ ยังอยู่ในสภาพที่ปกติไหม มีส่วนไหนชำรุดเสียหายไหม รวมไปถึงระดับของน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ก็เติมให้เต็มอยู่ตลอด เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมาภายหลัง
สภาพยาง และลมยาง
ยางเป็นสิ่งที่ต้องสัมผัสกับพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา ยิ่งช่วงที่อากาศร้อนๆแบบนี้ อุณหภูมิก็จะยิ่งสูงกว่าปกติ ทำให้ความดันภายในยางมากขึ้น ยิ่งถ้าเป็นยางเก่าเสื่อมสภาพก็เสี่ยงที่จะระเบิดได้ง่ายๆ ดังนั้นควรเช็คยางของรถคุณให้ดีๆ ถ้าพบว่าเสื่อมสภาพแล้วควรรีบเปลี่ยนทันที นอกจากจะเช็คสภาพของยางแล้ว ลมยางก็เป็นเรื่องสำคัญ ควรเติมลมยางเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ถึง 3 ในช่วงอากาศร้อน เพราะการเพิ่มแรงดันลมยางจะทำให้แก้มยางขยับตัวน้อยลง และช่วยลดความร้อนของลมในยางได้