โดยสำหรับรุ่นพิเศษนี้ถูกผลิตขึ้นเพื่อเป็นการฉลองชื่อใหม่ของสำนักแต่ง “Porsche Exclusive Manufaktur” จากชื่อเดิม “Porsche Exclusive” ซึ่งจะถูกผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น และยังมีตัวเลือกกับนาฬิกาข้อมือสุดหรูจาก Porsche Design ที่ผลิตจากไทเทเนียม สีดำดุดัน พร้อมสีหน้าปัดเดียวกับรุ่นพิเศษรุ่นนี้ และชุดกระเป๋าเดินหลากหลายแบบให้ได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของอีกด้วย
นอกจากความพิเศษของตัวรถสี Golden Yellow Metallic แล้ว ยังได้รับการตกแต่งด้วยคาร์บอนในส่วนของลายคาดตัวรถตั้งกระโปรงหน้ายาวต่อเนื่องไปบนหลังคา และส่วนท้าย โดดเด่นด้วยล้อขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้ว ที่มีดีไซน์เฉพาะตัวพร้อมสีสันที่ขอบลาย สี Golden Yellow เข้ากับตัวรถ ส่วนท้ายรถมีปรับเล็กน้อยกับในส่วนของดีไซน์และช่องระบาย รวมไปถึงสปอยเลอร์หลังใหม่ มีการติดตั้งตัวดักอากาศหลังแบบคาร์บอน และระบบไอเสียท่อสแตนเลสสีดำ
ภายในมาในโทนสีดำสปอร์ต ตัดสีสันเล็กน้อยด้วยการเดินตะเข็บในส่วนต่างๆ สี Golden Yellow ทั้งตัวเบาะสปอร์ตหุ้มหนังที่ปรับได้ 18 ทิศทาง แผงประตู แดชบอร์ด หรือแม้แต่ที่พวงมาลัย อีกทั้งยังถูกตกแต่งด้วยคาร์บอนที่แผงด้านหน้าแดชบอร์ด และบริเวณคอนโซลเกียร์อีกด้วย
ขุมกำลังเครื่องยนต์อัพเกรดตัวเครื่อง twin-turbo ขนาด 3.8 ลิตร ให้กำลัง 607 แรงม้า(PS) แรงบิด 750 นิวตันเมตร เร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.9 วินาที ก่อนทำความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม. และยังมั่นใจได้ในการควบคุมกับระบบเบรกเซรามิค ระบบ Rear-axle steering หรือ ล้อหลังปรับองศาเลี้ยวได้ และ Porsche Dynamic Chassis Control ซึ่งในรุ่นนี้ยังได้รับ Sport Chrono package หรือ ฟังก์ชั่นการเลือกรูปแบบการขับขี่ และระบบ the Porsche Active Suspension Management system หรือ ระบบควบคุมช่วงล่าง นั้นเอง
ติดตามเรื่องราวข่าววงการรถยนต์อื่นๆ ได้ที่นี่คลิกspyderautoimport.com/news/
#SpyderAutoImport #SpyderInsider #News #Automobile #Porsche#PorscheExclusiveManufaktur #Turbo