เรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและเปลี่ยนอะไหล่ ถือเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ใช้รถ เพราะอะไหล่ทุกชิ้นล้วนมีอายุการใช้งาน ดังนั้นถ้าอยากขับขี่ด้วยความปลอดภัย ก็ควรหมั่นตรวจเช็ค และเปลี่ยนอะไหล่ตามอายุการใช้งาน โดยอะไหล่แต่ละชิ้นนั้นก็มีอายุการใช้งานที่ต่างกันออกไป ซึ่งอะไหล่บางอย่างเราเรียกว่าอะไหล่สิ้นเปลือง เพราะอายุการใช้งานค่อยข้างน้อย
ดังนั้น SSM จะพามารู้จักกับอะไหล่สิ้นเปลือง มาดูกันเลยว่ามีอะไหล่ส่วนไหนบ้าง? ที่ควรเปลี่ยนบ่อยๆ
ผ้าเบรก
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเพราะนอกจากจะส่งผลต่อการทำงานของรถแล้ว ยังส่งผลต่อความปลอดภัยของเราอีกด้วย ดังนั้นหากได้ยินเสียงผิดปกติเวลาแตะเบรก นั่นถือเป็นสัญญาณที่บอกได้ว่าถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนผ้าเบรกแล้ว ควรรีบเปลี่ยนทันที
หัวเทียน
หัวเทียนก็เป็นอีกสิ่งสำคัญของรถยนต์ เพราะเป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่ในการจุดระเบิด ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรถยนต์ หากหัวเทียนเก่าหรือเสื่อมสภาพจะส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มที่ สะดุดตลอดเวลา ดังนั้นหากพบว่ามีอากาศผิดปกติ ควรเปลี่ยนทันที โดยอายุการใช้งานของหัวเทียนจะอยู่ประมาณ 40,000 กิโลเมตร
หัวเทียนก็เป็นอีกสิ่งสำคัญของรถยนต์ เพราะเป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่ในการจุดระเบิด ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรถยนต์ หากหัวเทียนเก่าหรือเสื่อมสภาพจะส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มที่ สะดุดตลอดเวลา ดังนั้นหากพบว่ามีอากาศผิดปกติ ควรเปลี่ยนทันที โดยอายุการใช้งานของหัวเทียนจะอยู่ประมาณ 40,000 กิโลเมตร
หลอดไฟส่องสว่าง
หลอดไฟมีหน้าที่ช่วยในการส่องสว่างและส่งสัญญาณในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก หรือไฟเลี้ยว ถือว่าสำคัญหมด เพราะหากหลอดไหนเกิดดับขึ้นมาจะส่งผลต่อการขับขี่ได้ ซึ่งหลอดไฟเหล่านี้ก็มีอายุการใช้งานที่ต่างกัน ดังนั้นควรสังเกตอาการของหลอดไฟหากเริ่มกระพริบ หรือดับควรเปลี่ยนทันที
หลอดไฟมีหน้าที่ช่วยในการส่องสว่างและส่งสัญญาณในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก หรือไฟเลี้ยว ถือว่าสำคัญหมด เพราะหากหลอดไหนเกิดดับขึ้นมาจะส่งผลต่อการขับขี่ได้ ซึ่งหลอดไฟเหล่านี้ก็มีอายุการใช้งานที่ต่างกัน ดังนั้นควรสังเกตอาการของหลอดไฟหากเริ่มกระพริบ หรือดับควรเปลี่ยนทันที
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อรถยนต์ เพราะมีหน้าที่จ่ายไฟไปให้ส่วนต่างๆ ในรถ ดังนั้นถ้าอยากให้รถของคุณมีกำลังไฟที่เต็มประสิทธิภาพ สตาร์ทติดง่าย ระบบไฟส่องสว่างได้เต็มที่ ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ตามกำหนดเมื่อหมดอายุการใช้งาน ซึ่งส่วนใหญ่ระยะเวลาเปลี่ยนจะอยู่ประมาณ 2 ปี
กรองอากาศ
กรองอากาศคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยกรองสิ่งสกปรกในอากาศก่อนเข้าไปยังเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์มีอากาศสะอาดสำหรับการเผาไหม้ แต่เมื่อใช้งานไปนานๆ กรองอากาศก็จะมีสิ่งสกปรกอุดตันอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้อากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ได้น้อยลง ทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ดังนั้นควรเปลี่ยนกรองอากาศ ทุกๆ 20,000 – 30,000 กม. หรือ 1 ปีขึ้นอยู่กับการใช้งานของเรา แต่สำหรับใครที่ไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย จะเปลี่ยนพร้อมกับการถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้งก็สามารถทำได้ครับ หรือถ้าไม่อยากเปลี่ยนพร้อมกับการถ่ายน้ำมันเครื่องจะถอดออกมาเป่าฝุ่นบ้าง ก็ยังดี
กรองอากาศคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยกรองสิ่งสกปรกในอากาศก่อนเข้าไปยังเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์มีอากาศสะอาดสำหรับการเผาไหม้ แต่เมื่อใช้งานไปนานๆ กรองอากาศก็จะมีสิ่งสกปรกอุดตันอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้อากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ได้น้อยลง ทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ดังนั้นควรเปลี่ยนกรองอากาศ ทุกๆ 20,000 – 30,000 กม. หรือ 1 ปีขึ้นอยู่กับการใช้งานของเรา แต่สำหรับใครที่ไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย จะเปลี่ยนพร้อมกับการถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้งก็สามารถทำได้ครับ หรือถ้าไม่อยากเปลี่ยนพร้อมกับการถ่ายน้ำมันเครื่องจะถอดออกมาเป่าฝุ่นบ้าง ก็ยังดี
สายพาน
สายพานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายพานไดสตาร์ต ไดชาร์จ สายพานคอมเพรสเซอร์แอร์ สายพานของระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ ถ้าเกิดขาดขึ้นมาระหว่างการขับขี่ไม่เป็นผลดีต่อรถของเราแน่ ดังนั้นควรตรวจเช็คเป็นประจำ โดยสังเกตง่ายๆ สายพานที่เริ่มจะหมดอายุการใช้งานมักจะแตกลายงา และมีเสียงดังตอนสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยส่วนใหญ่แล้วอายุการใช้งานของสายพานจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 กิโลเมตร
สายพานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายพานไดสตาร์ต ไดชาร์จ สายพานคอมเพรสเซอร์แอร์ สายพานของระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ ถ้าเกิดขาดขึ้นมาระหว่างการขับขี่ไม่เป็นผลดีต่อรถของเราแน่ ดังนั้นควรตรวจเช็คเป็นประจำ โดยสังเกตง่ายๆ สายพานที่เริ่มจะหมดอายุการใช้งานมักจะแตกลายงา และมีเสียงดังตอนสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยส่วนใหญ่แล้วอายุการใช้งานของสายพานจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 กิโลเมตร
ใบปัดน้ำฝน
อาจจะเป็นส่วนที่เราไม่ได้ใช้บ่อยนัก แต่ถ้าในช่วงฝนตกก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย เพราะจะช่วยทำให้เรามองเห็นได้ในช่วงที่ฝนตก ซึ่งใบปัดน้ำฝนส่วนมากจะเสื่อมสภาพเร็วเพราะโดนแสงแดดอยู่เป็นประจำ ดังนั้นควรเปลี่ยนทุกๆ 6-12 เดือน เพื่อความสะดวกในการขับขี่
อาจจะเป็นส่วนที่เราไม่ได้ใช้บ่อยนัก แต่ถ้าในช่วงฝนตกก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย เพราะจะช่วยทำให้เรามองเห็นได้ในช่วงที่ฝนตก ซึ่งใบปัดน้ำฝนส่วนมากจะเสื่อมสภาพเร็วเพราะโดนแสงแดดอยู่เป็นประจำ ดังนั้นควรเปลี่ยนทุกๆ 6-12 เดือน เพื่อความสะดวกในการขับขี่